IFLA 2018 Insurance ไขข้อสงสัย ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถึงไม่เท่ากันเลยสักคันเดียว

ไขข้อสงสัย ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถึงไม่เท่ากันเลยสักคันเดียว

ไขข้อสงสัย ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถึงไม่เท่ากันเลยสักคันเดียว post thumbnail image

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องชำระให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อแลกกับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ เบี้ยประกันภัยรถยนต์จะคำนวณจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของรถยนต์ มูลค่าของรถยนต์ ประวัติการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย อายุของผู้เอาประกันภัย และพื้นที่ที่อาศัยอยู่ เป็นต้น ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตาม ประเภทของรถยนต์ รถยนต์แต่ละประเภทจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่แตกต่างกัน ดังนั้น เบี้ยประกันภัยรถยนต์จึงจะแตกต่างกันตามประเภทของรถยนต์ เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะมีเบี้ยประกันภัยต่ำกว่ารถยนต์บรรทุกสินค้า และมูลค่าของรถยนต์ รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงจะมีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายมากกว่า ดังนั้น เบี้ยประกันภัยรถยนต์จึงจะสูงกว่ารถยนต์ที่มีมูลค่าต่ำ เป็นต้น

ไขข้อสงสัย ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถึงไม่เท่ากันเลยสักคันเดียว

  • เหตุผลที่เบี้ยประกันรถยนต์ราคาแตกต่างกัน คือ ประกันรถยนต์นั้นมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 หรือชั้น 3 ก็มีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่จะได้รับจากบริษัทประกันซึ่งหากมีความคุ้มครองมากกว่าก็ย่อมต้องจ่ายแพงกว่าเป็นเรื่องปกติ
  • เหตุผลที่เบี้ยประกันรถยนต์ราคาแตกต่างกัน คือ นอกจากความแตกต่างของประกันแต่ละประเภทแล้วนั้น สภาพของรถยนต์ที่นำมาทำประกันก็ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานของรถ รถเก่า รถใหม่ หรือรวมไปถึงรถที่มีร่อยรอยการชนมาก็ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันทั้งสิ้น ซึ่งทางบริษัทประกันก็จะมีเจ้าหน้าที่มาพิจารณาว่ารถแต่ละคันจะต้องเสียค่าเบี้ยประกันที่เท่าไหร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่กล่าวถึงนั้นทางบริษัทประกันจะเรียกว่าเจ้าหน้าที่รับประกัน หรือ Underwriter ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการพิจารณาว่าจะรับประกันหรือไม่และหากรับจะต้องมีค่าเบี้ยประกันที่เท่าไหร่ ซึ่งรถแต่ละคันก็จะมีค่าเบี้ยประกันที่ไม่เท่ากัน โดยทาง Underwriter ก็จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาที่ต่างกันในแต่ละบริษัทอีกเช่นกัน
  • เหตุผลที่เบี้ยประกันรถยนต์ราคาแตกต่างกัน คือ การซเลือกซ่อมรถว่าจะซ่อมห้าง (ศูนย์รถยนต์) หรือซ่อมอู่ทั่วไปก็มีผลทำให้ค่าเบี้ยประกันแตกต่างกัน ซึ่งในการซ่อมห้างนั้นจะได้ใช้วัสดุที่มาจากศูนย์ของรถยนต์ยี่ห้อนั้น ๆ เลย และคุณภาพอาจจะดีกว่าซ่อมตามอู่รถทั่วไป ดังนั้นการซ่อมห้างก็จะมีค่าเบี้ยที่แพงกว่าเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การทำประกันรถนั้นมีหลากหลายประเภทและหลากหลายราคาดังนั้นผู้ใช้รถต้องพิจารณาเลือกประกันที่เหมาะกับการใช้งานและมีความคุ้มค่าให้มากที่สุดด้วยเช่นกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดนั่นเอง